เป็นเรื่องน่าแปลกใช่ย่อยว่า ทีมชาติเยอรมนี ออกทรงฟุบมากฟุบน้อยในตลอดช่วงหลัง จนเริ่มมีการพูดเรื่องสั่งเด้ง ฮันซี่ ฟลิค แล้วนำตัว เยอร์เก้น คล็อปป์ ไปทำหน้าที่แทนในภารกิจล่าแชมป์ ยูโร 2024 ในบ้านตัวเอง
แต่… สาวกหงส์แดงไม่ต้องกังวลหรือหวั่นใจไป นี่คือเหตุผลที่ คล็อปป์ จะไม่ทิ้ง ลิเวอร์พูล ไปคุม เยอรมนี ณ ตอนนี้แน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์!
เกิดอะไรขึ้นกับ เยอรมนี
เพราะทั้งที่ออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรูอู้หูหวานเจี๊ยบ — เยอรมนี ภายใต้การนำของ ฮันซี่ ฟลิค (ผละจาก บาเยิร์น มิวนิค ไปคุมแทน โยอัคคิม เลิฟ หลังยูโร 2020) มีผลงานเจ๋งเป้งสุดๆ ไปเลยใน รอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2022 แบบที่ชนะ 9 แพ้แค่ 1 ยิงกระจาย 36 เสียแค่ 4 ลูก ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเป็น “ทีมแรกในโลก” หากไม่นับเจ้าภาพ กาตาร์
แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ 2022 ทั้ง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก, ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จนลากยาวมาเกมอุ่นเครื่องเตรียมทีมลุย ยูโร 2024 อินทรีเหล็ก ก็ดันกลายร่างเป็น “อินทรีพลาสติก” จับตรงนั้นก็ยุบ แตะตรงนี้ก็ยวบ
นี่คือ เยอรมนี ของ ฮันซี่ ฟลิค เมื่อเข้าปี 2022 จนวันนี้
- 2022อุ่นเครื่อง ชนะ อิสราเอล 2-0อุ่นเครื่อง เสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1เนชั่นส์ ลีก เสมอ อิตาลี 1-1เนชั่นส์ ลีก เสมอ อังกฤษ 1-1เนชั่นส์ ลีก เสมอ ฮังการี 1-1เนชั่นส์ ลีก ชนะ อิตาลี 5-2เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮังการี 0-1เนชั่นส์ ลีก เสมอ อังกฤษ 3-3อุ่นเครื่อง ชนะ โอมาน 1-0ฟุตบอลโลก แพ้ ญี่ปุ่น 1-2ฟุตบอลโลก เสมอ สเปน 1-1ฟุตบอลโลก ชนะ คอสตาริกา 4-2
- 2023อุ่นเครื่อง ชนะ เปรู 2-0อุ่นเครื่อง แพ้ เบลเยียม 2-3อุ่นเครื่อง เสมอ ยูเครน 3-3อุ่นเครื่อง แพ้ โปแลนด์ 0-1อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 0-2
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 16 เกมหลังสุดทุกรายการ แชมป์โลก 4 สมัยอย่าง เยอรมนี ชนะแค่ 4 ที่เหลือเสมอ 7 แพ้ 5
สำคัญกว่านั้นคือ การเตรียมทีม เตรียมความพร้อม ซักซ้อมแท็กติกเตรียมไว้ลุย ยูโร 2024 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพเอง เยอรมนี กลับเอาชนะใครไม่เป็นมา 4 เกมซ้อนแล้ว
ทั้งที่ชื่อคู่แข่งแต่ละราย (ยูเครน, โปแลนด์, โคลอมเบีย) ถ้าในช่วงอินทรีเหล็กพีคๆ พูดเลยว่ามียิงขาด 3-4 เม็ดขึ้น!
International Friendly”Germany v Colombia” / ANP/GettyImagesทำไมชื่อของ คล็อปป์ จึงถูกเชื่อมโยง
ก็เพราะอาการเพียบขนาดนี้ ฮันซี่ ฟลิค ดูสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกแบบนี้ กระแสของ “ความเปลี่ยนแปลง” จึงดังขึ้นในกลุ่มแฟนบอลเยอรมัน
พวกเขายอมให้ทีมรักตุปัดตุเป๋แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะว่า ยูโร ครั้งสำคัญที่ตัวเองจะได้เป็นเจ้าภาพ จะมาถึงในอีก 1 ปีข้างหน้านี้เท่านั้น — เยอรมนี อาจเป็นแชมป์ทวีปยุโรปมา 3 รอบแล้วก็จริง แต่หนล่าสุดคือยุคสมัยที่ “โกลเด้นโกล” ยังถูกใช้ และ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ สอยประตูทองนำชัยเหนือ สาธารณรัฐเช็ก ที่เวมบลีย์ 1996 มาแล้วโน่น
ประเด็นคือ มันไม่ใช่แค่ช่วงลับแข้งเตรียมทีมปีนี้ ที่ เยอรมนี กระเสาะกระแสะอย่างดูไม่ได้ แต่มันกินเวลามาตลอดทั้งปี 2022 แล้ว อย่างที่ว่าไว้ด้านบน
แฟนบอลเยอรมัน, โดยเฉพาะสื่อแถวหน้าอย่าง บิลด์ ที่ชูธงประกาศชัด, ไม่ต้องการเห็นทีมของพวกเขาดู “ไม่พร้อมคว้าแชมป์” ในมือของ ฟลิค อีกต่อไป แต่คำถามถัดมาก็คือ แล้วจะเอาใครมาแทน…?
- โธมัส ทูเคิ่ล — เพิ่งคุม บาเยิร์น ได้ไม่นานยูเลียน นาเกิลส์มันน์ — ไม่น่าดีไปกว่า ฟลิค สักเท่าไรสเตฟาน คุนซ์ — ติดงานกับ ตุรกีเยอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ — เพิ่งได้คุม เกาหลีใต้โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ — ไม่ใช่คนเยอรมัน (เป็นออสเตรีย)มัทธีอัส ซามเมอร์ — ไม่ใช่โค้ช!
เพราะถ้าจะเปลี่ยนตอนนี้ ก็ไม่มีใครแล้วที่จะเหมาะไปกว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้พา ลิเวอร์พูล ผงาดแชมป์ 7 รายการ มีครบทั้ง พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และบอลถ้วยรายการอื่น เรียกว่าทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิถือว่าเหมาะสมอย่างที่สุดกับงานนี้
กรณีนี้ บิลด์ ยังได้เปิดโหวต (นอกจากเขียนบทความว่า “เดเอฟเบ ต้องสู้เพื่อคว้า คล็อปป์ มาทำทีมให้ได้ตอนนี้”) ว่าแฟนๆ อยากได้กุนซือคนไหนมานั่งเก้าอี้ “บุนเดสเทรนเนอร์” แทน ฮันซี่ ฟลิค
ผลคือ แฟนจำนวนมากร่วมโหวตชื่อ คล็อปป์ นำโด่งมาแบบไร้คู่แข่ง ถึง 47% ถัดมาเป็น นาเกิลส์มันน์ ตามมาห่างๆ 17%, วางใจให้ ฟลิค อยู่ต่อ 11%, ซามเมอร์ 9% และ กลาสเนอร์ 8%
อย่างไรก็ตาม จากการยืนยันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และสถานการณ์ที่กำลังเป็นไป ณ ตอนนี้ ก็ต้องบอกว่า…
Germany v Colombia – International Friendly / BSR Agency/GettyImagesยังเร็วไปที่ เยอรมนี จะเปลี่ยนกุนซือ
เป็นเรื่องจริงที่ เยอรมนี ของ ฟลิค มีผลงานระดับ “ดูไม่จืด” ชนะแค่ 4 จาก 16 เกมหลังสุด แต่ก็ยังไม่ถือว่า “เลวร้ายเกินรับไหว” และยังมีเวลาเหลือให้ ฟลิค แก้ตัวพลิกกระดานพา เยอรมนี กลับมาน่าเกรงขามได้อีกครั้ง
เดือน ก.ย. นี้ เยอรมนี จะลงลับแข้งเพิ่มเติมอีก 2 นัด เล่นในโวล์ฟสบวร์ก พบ ญี่ปุ่น ตามด้วยที่ดอร์ทมุนด์ เจอ ฝรั่งเศส
แม้จากฟอร์มที่เป็น อาจดูมีสิทธิ์ที่ เยอรมนี จะแพ้รวดทั้ง 2 นัด แต่ใครจะรู้ พวกเขาก็อาจฟื้นฟอร์มแกร่งชนะ 2 นัดรวด และทำให้เสียงก่นด่าหายไปแบบเงียบกริบ ก็ได้อยู่เหมือนกัน
ที่สำคัญ กุนซือวัย 58 ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก เดเอฟเบ อยู่ โดยที่ แบร์นด์ นอยเอนดอร์ฟ ประธานเดเอฟเบคนปัจจุบัน ก็ยืนยันไว้แล้วด้วยว่า เก้าอี้ของ ฟลิค ยังขามั่นคงแข็งแรงดีอยู่ “ผมได้ต่อสายหาเขาแล้ว และเขารับปากกับผมว่าในเดือนกันยายน เราจะได้เห็นทีมเล่นในฟอร์มที่แตกต่างไปจากช่วงหลัง”
หรือในกรณีที่ถ้า เยอรมนี ยังฮึดไม่ขึ้น ก็มีสิทธิ์เหมือนกันที่ ฟลิค จะชะตาขาด โดนเด้งกลางคัน
แต่ต่อให้เกิดขึ้นจริง ก็เป็นไปได้ยากมากอยู่ดีที่พวกเขาจะได้ตัว คล็อปป์ ไปจากแอนฟิลด์ นั่นเพราะ…
International Friendly”Germany v Colombia” / ANP/GettyImagesไม่มีเหตุผลที่ คล็อปป์ จะอำลา ลิเวอร์พูล ตอนนี้
ใช่ เพราะไม่มีเหตุผลเลยที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะตัดใจอำลา ลิเวอร์พูล ไปเสียตอนนี้
หนึ่งคือสัญญายังเหลือยาวยัน 2026 เท่ากับ เดเอฟเบ ต้องควักจ่ายไม่เบาเลยถ้าหวังฉีกสัญญาดึงตัวไป
สอง–และสำคัญสุด คือ ให้หลังจากซีซั่นอันเลวร้าย หลุดออกจากท็อปโฟร์และพลาดแชมป์บอลถ้วยทุกรายการ (แชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ นับไหม?) คล็อปป์ จึงมี “ความท้าทาย” สูงมากในการพา ลิเวอร์พูล กลับสู่หัวแถวและลุ้นแชมป์ทุกถ้วยอีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต้องสร้าง ลิเวอร์พูล ยุคใหม่ขึ้นด้วยมือของเขาเอง
เพราะถัดจาก ซาดิโอ มาเน่ กับ ดิว็อค โอริกี้ ที่จากทีมไปตอนซัมเมอร์ 2022 ก็ยังตามด้วย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ถึงคราวตบเท้าอำลาทีมซัมเมอร์นี้ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
ส่วน “ของเล่นใหม่” จนถึงตอนนี้มีมาแค่รายเดียวคือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ดังนั้นแน่นอนว่า คล็อปป์ กำลังทำงานหนักร่วมกับทีมสรรหา เพื่อทำการถ่ายเลือดทีมของเขาให้พร้อมที่สุดสำหรับซีซั่นใหม่
ต้องทำอย่างไรให้ ลิเวอร์พูล 2023/24 แข็งแกร่งเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อน
ทำอย่างไรให้ ลิเวอร์พูล กลับไปอยู่เหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ นิวคาสเซิ่ล อีกครั้ง
และทำอย่างไรให้ ลิเวอร์พูล สู้กับแชมป์ 3 ปีซ้อน แมนฯ ซิตี้ อย่างคู่คี่สูสีเหมือนที่เคยเป็น
เหล่านี้ล้วนแต่คืองานและภารกิจที่ คล็อปป์ ต้องสะสางในแอนฟิลด์
ส่วนงานอื่นกับที่อื่น ไม่มีทางเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
Liverpool FC v Brentford FC – Premier League / Alex Livesey/GettyImagesบางที คล็อปป์ กับ เยอรมนี อาจต้องรออีกนานเลย
ครั้นว่า เยอรมนี จะเดินตามรอย บราซิล (ที่ดูเหมือนจะรอ คาร์โล อันเชล็อตติ มานั่งเก้าอี้ปี 2024) ให้ คล็อปป์ มารับ “จ๊อบเสริม” พาทีมลุย ยูโร 2024 ซัมเมอร์หน้า เป็นการชั่วคราว ก็ดูว่าจะ “ไม่คุ้มเสี่ยง” เกินไป
และทีมระดับ เยอรมนี ไม่ควรต้องหาทางออกด้วยวิธีนี้
ตอนนี้ไม่ใช่ ซัมเมอร์หน้าก็อาจไม่ใช่ แล้ว คล็อปป์ กับ เยอรมนี จะต้องรออีกนานถึงเมื่อไหร่จะได้มาบรรจบกัน?
เร็วที่สุด เดเอฟเบ และแฟนๆ อินทรีเหล็ก ก็อาจต้อง “แช่งชักหักกระดูก” ให้ ลิเวอร์พูล ล้มเหลวอย่างหนักอีกครั้งในซีซั่นใหม่ แบบที่ทั้งหลุดจากโซน ชปล. ไม่พอ ยังมือเปล่าซ้ำสอง กระเด็นออกจากบอลถ้วยเร็วจี๋ในทุกรายการ
ถ้าออกรูปนี้ ก็มีสิทธิ์ที่ ลิเวอร์พูล จะสั่งเชือด คล็อปป์ ด้วยตัวเอง แล้ว เดเอฟเบ ค่อยมาเชิญตัว คล็อปป์ ไปนั่งเก้าอี้ ทันเวลาลุย ยูโร 2024 พอดี
แต่ถ้าไม่ออกรูปนี้ แล้ว ลิเวอร์พูล กลับไปแข็งแกร่งได้อีกครั้ง อยู่ในจุดที่ควรจะอยู่ และได้ลุ้นแชมป์อย่างที่เหมาะที่ควรจะเป็น
เยอรมนี ก็อาจต้องรอ คล็อปป์ ยาวๆ ยันหมดสัญญา 2026
แบบที่ต้องห้อยท้ายว่า “เป็นอย่างน้อย” ด้วย!
Liverpool FC v Aston Villa – Premier League / Visionhaus/GettyImages
Source: 90min.com