“ฟูโตชิ อิเคดะ” เปิดใจหลังรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ตั้งเป้าไปฟุตบอลโลกที่บราซิล

วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร FA Thailand สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงาน MEET THE PRESS “ฟูโตชิ อิเคดะ” หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย คนใหม่

ภายในงานแถลงข่าวนำโดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกสมาคมฯ พร้อมด้วย เอกพล พลนาวี รองเลขาธิการฝ่ายจัดการแข่งขัน, ทรงยศ กลิ่นศรีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และ ดร.หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลหญิง

ภายในงานแถลงข่าว ฟูโตชิ อิเคดะ กล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องขอบคุณ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย”

“ผมคิดว่าฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย มีศักยภาพ หลังเคยมีประสบการณ์ในการไปลุยฟุตบอลโลก มาแล้ว 2 ครั้ง ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากกับการเข้ามารับงานในครั้งนี้ ตอนที่ผมได้รับข้อเสนอ จากท่านนายกสมาคมฯ ก็ใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจตอบตกลง ผมมีเป้าหมายที่จะพัฒนาฟุตบอลหญิงของไทย และสู้ไปพร้อมกับทุกๆคน”

“เป้าหมายใหญ่ของเราแน่นอนคือ การไปฟุตบอลโลกหญิงอีกครั้ง ที่ บราซิล ในปี 2027 แต่อย่างที่ทราบกัน การไปฟุตบอลโลกไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องได้การสนับสนุนจากสมาคมฯ รวมถึง นักกีฬา และสตาฟโค้ชทุกคน ผมอยากได้แรงสนับสนุนจากทุกคน ผมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์และความทรงจำที่ดีกับนักกีฬา ผมต้องขอบคุณมาดามแป้งเป็นอย่างมาก ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ผมพร้อมที่จะทำเต็มที่ เพื่อแสดงสิ่งที่ผมมีออกมาให้ได้มากที่สุด”

“สำหรับ เรื่องวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ผมพร้อมที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมไทย ฟุตบอลสำหรับผมเป็นเหมือนกันทั่วโลก ทุกที่มีกฏ กติกา เดียวกันอยู่แล้ว ผมจะพยายามพัฒนาฟุตบอลหญิงไทย ซึ่งตัวผมเองได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง โค้ช (มาซาทาดะ อิชิอิ) และ โค้ช (ทาคายูกิ นิชิกายะ) ไปแล้ว และได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานที่ไทยและญี่ปุ่น ก็ได้รับการสนับสนุนจากโค้ชทั้งสองคนเป็นอย่างดี”

“วันที่ 20 มกราคมนี้ จะมีการเรียกนักกีฬาเก็บตัวครั้งแรก ก็จะดูศักยภาพของนักกีฬาทุกคน ซึ่งเมื่อถึงตรงนั้น ผมคิดว่าผมน่าจะทราบถึงแนวทางการทำทีม อยากให้นักกีฬาทุกคนมีความมั่นใจและพัฒนาไปด้วยกัน ผมจะพยายามเรียนรู้ตัวนักเตะรวมถึงศักยภาพของทีม แล้วมามองว่าฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เหมาะสมที่จะใช้แผนไหน และใครมีความเหมาะสมที่จะเล่นตรงไหน ซึ่งการเก็บตัวครั้งแรกจะเป็นตัวชี้วัด โดยส่วนตัวของผม แผนการเล่นของผมคือเน้นเรื่องการเล่นเกมรุก และมีความดุดัน ในการแย่งชิงบอล บวกกับความขยัน นี่คือสไตล์ของตัวผม”

“การคัดเลือกนักกีฬา ผมจะมองที่ศักยภาพเป็นหลัก ถ้าคุณมีความสามารถก็สามารถเป็นตัวแทนทีมชาติไทย สำหรับโครงการเปิดหาลูกครึ่งตามนโยบายของท่านนายกฯ ผมมองว่าเป็นเรื่องดี มันเหมือนการเปิดมุมมอง เปิดโลกในการมองหาตัวลูกครึ่ง เพราะการคัดเลือกนักกีฬาและเพิ่มการแข่งขันถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นักเตะที่อยู่ต่างแดน ก็อาจจะมีประสบการณ์มากกว่าในประเทศไทย ในการมองหาทั่วโลก ถือเป็นสิ่งที่ดี”

“ผมเองได้มีโอกาสพูดคุยกับ โค้ช มิโยะ โอกาโมโตะ ที่เคยมีประสบการณ์คุมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของอุปสรรคในการเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รวมถึงความเป็นอยู่ในประเทศไทย และเรื่องต่างๆ”

“สำหรับ ทัวร์นาเมนต์ในปีนี้ เดือนมิถุนายน เราจะมีโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ซึ่งเป็นขั้นแรกของการไปฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก และในเดือนธันวาคม เราก็จะมีโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลหญิงในมหกรรมซีเกมส์ ก็จะพยายามเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด สำหรับการแข่งขันทั้งสองรายการ”

“ตอนนี้ผมอยู่ที่ประเทศไทย มาได้เป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว สัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร และได้รับความอบอุ่นเป็นอย่างมาก ส่วนกับโค้ชอิชิอิ ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องการใช่ชีวิต แต่ก็ได้มีโอกาสได้ไปดูเกมรีโว่ ไทยลีก ด้วยกัน ส่วนอาหารไทย มีรสชาติที่อร่อย และช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเวลาที่ดี”

“สุดท้ายผมยืนยันว่าตัวผมพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกคน เพื่อต่อสู้ในรายการแข่งขันทุกรายการ ทุกคนก็จะสู้เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกันที่ดี ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่มาถึงตัวผมตลอด และขอให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน”

โดยแผนงานแรกของ ฟูโตชิ อิเคดะ คือการเรียกนักกีฬา มาเก็บตัวแคมป์แรกที่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬา ภายในมหาวิทยาลัย กรุงเทพธนบุรี ในระหว่างวันที่ 20-25 มกราคม 2568 และจะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการ Pink Ladies Cup ที่ นครดูไบ ประเทศ สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 19-27 กุมภาพันธ์ 2568

ต่อด้วย โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก (2026 AFC Women’s Asian Cup qualification) ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน – 5 กรกฎาคม 2568 และปิดท้ายที่ การแข่งขันฟุตบอลหญิงในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนธันวาคม 2568