โทษฐานที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ประกาศ 23 รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทย ชุดสู้ศึก คิงส์ คัพ 2023 ซึ่งจะแข่งขันกันในช่วงปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ และได้รับการรับรองจากสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติให้เป็นเกมระดับ ‘A Match’ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อสะสมคะแนน ว่าแล้ว ‘SIAMSPORT’ จึงขันอาสามาวิเคราะห์ว่าทัพช้างศึกจะจัดแผนการเล่นเช่นไร!?
[ 1 ] ผู้รักษาประตู
นักเตะในตำแหน่งนี้ : ฉัตรชัย บุตรพรม, ปฏิวัติ คำไหม, จิรวัฒน์ วังทะพันธ์
จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ กับการถูกเรียกตัวสู่ทำเนียบทีมชาติไทย เป็นหนแรกในชีวิต ด้วยผลงานเซฟอุตลุดให้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทว่าด้วยพรรษาในเกมระดับนานาชาติที่ยังเยาว์กว่าอีกสองราย ทำให้เขาน่าจะต้องรอโอกาส แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย
ดังนั้นตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งจึงเป็นการแข่งขันกันระหว่าง ฉัตรชัย บุตรพรม และ ปฏิวัติ คำไหม แน่ๆ โดยที่รายแรกมีเรื่องของประสบการณ์ ส่วนรายหลังนั้นฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ จนถูกคาดการณ์ว่าจะยึดตัวจริงในอนาคต อีกทั้งก็ดูจะเป็นที่ชื่นชอบของ โพลกิ้ง เป็นพิเศษเสียด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นนัดกระชับมิตร แต่ว่า ฟีฟ่า รับรองให้เป็นเกมระดับ ‘A Match’ ซึ่งมีผลต่อคะแนน กุนซือเชื้อสายบราซิล-เยอรมัน น่าจะจิ้มไปที่ ฉัตรชัย เป็นลำดับแรก เนื่องจากได้ความเก๋ามาบัญชาการเป็นด่านสุดท้าย
ตัวจริงที่คาด : ฉัตรชัย บุตรพรม
[ 2 ] เซนเตอร์ฮาล์ฟ
นักเตะในตำแหน่งนี้ : พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, เฉลิมศักดิ์ อักขี, เอเลียส ดอเลาะ
น่าเสียดายที่ไม่มีชื่อของ สุพรรณ ทองสงค์ เซนเตอร์ฮาล์ฟผลงานดีของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่น่าจะคัมแบ็กสู่ทัพช้างศึกอีกหน โดยเป็น เอเลียส ดอเลาะ ที่ โพลกิ้ง เลือกที่จะเรียกกลับมาแทน
อย่างไรก็ตาม ปราการหลังจาก บาหลี ยูไนเต็ด น่าจะเป็นตัวเลือกรองลงมาจากคนอื่นๆ โดยคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวจริง กฤษดา กาแมน จองตำแหน่งแล้วแน่ๆ หนึ่งราย ส่วนอีกหนึ่ง ต้องขับเคี่ยวระหว่าง พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เฉลิมศักดิ์ อักขี
ด้วยผลงานที่ดีกับ การท่าเรือ เอฟซี ทำให้ เฉลิมศักดิ์ มีโอกาสได้ลงมายืนเคียงข้าง กฤษดา แม้จะประสบการณ์น้อยกว่า พรรษา ทว่าได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องกับต้นสังกัด ผิดกับกองหลังของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตกเป็นตัวสำรองทั้ง 3 นัดแรกของฤดูกาล 2023-24
ตัวจริงที่คาด : กฤษดา กาแมน และ เฉลิมศักดิ์ อักขี
[ 3 ] ฟูลแบ็ก
นักเตะในตำแหน่งนี้ : นิโคลัส มิคเคลสัน, นิติพงษ์ เสลานนท์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ธีราทร บุญมาทัน
ฝั่งขวา ฟอร์มการเล่นของ นิติพงษ์ เสลานนท์ กำลังร้อนฉ่าสุดๆ รับแจ่ม รุกแจ๋ว แถมมักจะสอดขึ้นไปทำแอสซิสต์ได้อีกต่างหาก ทว่ามาตรฐานของ นิโคลัส มิคเคลสัน นั้นสูงลิ่ว และการที่เล่นอยู่ในลีกยุโรป น่าจะทำให้เขามีภาษีดีกว่าแบ็กจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด
ฝั่งซ้าย ยังไงเสีย ธีราทร บุญมาทัน ก็คือเบอร์หนึ่งแน่ๆ เพียงแต่ว่าอดีตแชมป์ เจลีก 2019 อาจจะถูกขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ เมื่อนั้นโอกาสจึงจะมาตกอยู่กับ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา
ทว่าแผงกองกลางของทีมชาติไทย ชุดนี้อุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นยอด ดังนั้น ธีราทร จึงน่าจะประจำการอยู่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายมากกว่า
ตัวจริงที่คาด : แบ็กขวา มิคเคลสัน, แบ็กซ้าย ธีราทร
[ 4 ] กองกลาง
นักเตะในตำแหน่งนี้ : สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ปกเกล้า อนันต์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, เบนจามิน เดวิส
โพลกิ้ง มักจะใช้อยู่ 2 ระบบ โดยมี 4-3-3 เป็นทางเลือกแรก ทว่าในระยะหลังเขาก็ใช้ 4-4-2 บ้าง ตามแต่สถานการณ์หรือคู่ต่อสู้ในแต่ละเกม
หากเล่นในรูปแบบ 4-3-3 คู่กองกลางสองคนน่าจะมี สารัช อยู่เย็น เป็นตัวยืน ส่วนอีกคนต้องแย่งกันระหว่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ปกเกล้า อนันต์ และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ซึ่งแต่ละรายล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์แตกต่างกันออกไป
ทว่าถ้าเอาฟอร์มปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ปกเกล้า ถือว่ามีโอกาสมากที่สุด เพราะมาตรฐานการเล่นของนักเตะวัย 32 ปี นั้นสูงอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีความเข้าใจเกมสูง แถมล่าสุดยังยิง 2 ประตู พา แบงค็อก ยูไนเต็ด บุกไปชนะ ลำพูน วอร์ริเออร์ส อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่หายหน้าจากทีมชาติไปนาน มันอาจจะทำให้มิดฟิลด์จากค่ายบียูต้องนั่งรอก่อน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ฐิติพันธ์ กับ วีระเทพ น่าจะเป็นตัวเลือกในใจของ โพลกิ้ง ทว่าก็ต้องขึ้นอยู่ที่จะเลือกใช้แบบใด
หากต้องการพละกำลังและกองกลางแบบ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ก็ต้องเป็น ฐิติพันธ์ แต่ถ้าเน้นการคอนโทรลเกม หรืออยากได้ลูกจ่ายแบบคิลเลอร์พาส ก็ต้องเป็น วีระเทพ
ขณะที่ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ นั้นเล่นได้หลายบทบาท ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางหรือเพลย์เมเกอร์ ซึ่งก็มีโอกาสสอดแทรกได้เช่นกัน เพราะผลงานกับ การท่าเรือ เอฟซี ก็ทำได้เยี่ยมทีเดียว
ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่ง ตอนแรกเป็น ชนาธิป สงกระสินธ์ นั้นจองตัวจริงแน่ๆ แต่เขาต้องถอนตัว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในเกม ไทยลีก นัดล่าสุด ที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บุกไปชนะ อุทัยธานี เอฟซี 2-0
ดังนั้นในตำแหน่งเพลย์เมเกอร์ วรชิต จึงมีสิทธิ์สูงที่จะได้โอกาสก่อนใคร โดยมี เบนจามิน เดวิส ที่ถูกเรียกมาแทน ชนาธิป คอยสอดแทรก
ในรายของ บดินทร์ ผาลา, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ นั้นเป็นพวกริมเส้นมากกว่า จึงน่าจะถูกจัดไปอยู่ในแนวรุกข้างบนที่คอยสนับสนุนศูนย์หน้าตัวเป้า
ตัวจริงที่คาด : หากเป็นระบบ 4-3-3 ตัวจริงน่าจะเป็น สารัช, ฐิติพันธ์, วรชิต แต่ถ้าเป็น 4-4-2 ตัวจริงน่าจะเป็น สารัช, วีระเทพ, ฐิติพันธ์, วรชิต
[ 5 ] กองหน้า
นักเตะในตำแหน่งนี้ : ธีรศิลป์ แดงดา, สุภโชค สารชาติ, ปรเมศย์ อาจวิไล
ด้วยความที่ระยะหลัง โพลกิ้ง มักจะเล่นในระบบ 4-4-2 ทำให้พวกนักเตะริมเส้นถูกลดบทบาทลงไป โดยจะใช้คู่กองหน้าแทน ซึ่งมี ธีรศิลป์ แดงดา เป็นจุดศูนย์กลาง ทว่าดูโอ้ของอดีตหัวหอก อัลเมเรีย นั้นไม่ใช่นักเตะแบบดาวยิงจ๋าๆ หากแต่เป็นพวกที่เล่นหน้าต่ำได้ อาทิเช่น สุภโชค สารชาติ และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์
แต่ถ้ากุนซือช้างศึกกลับมาเล่น 4-3-3 เขามักจะใช้งาน สุภโชค ทำเกมอยู่ริมเส้นด้านขวา ส่วนฟากซ้ายเป็นหน้าที่ของ บดินทร์ ผาลา ส่วนหัวหอกตัวเป้า ธีรศิลป์ จองตัวจริง
อย่างไรก็ตาม ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงของ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก นั้นอาจจะทำให้ โพลกิ้ง ต้องคิดหนัก เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าแนวรุกคนนี้เก่งกาจเพียงใด เพราะเคยร่วมงานกันมาแล้วที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด และเมื่อปีกชาวนครราชสีมา ติดเครื่องเมื่อใด กองหลังหน้าไหนก็เอาอยู่ลำบาก
ตัวจริงที่คาด : หากเป็นระบบ 4-3-3 ตัวจริงน่าจะเป็น ธีรศิลป์ แต่ถ้าเป็น 4-4-2 ตัวจริงน่าจะเป็น ธีรศิลป์ กับ สุภโชค